Press ข่าววันนี้ 27กันยายน 2568
- วันเผยแพร่
- ฮิต: 195
กรมสุขภาพจิต เป็นหนึ่งในตัวแทนของประเทศไทย เข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ครั้งที่ 80 แลกเปลี่ยนแนวทางส่งเสริมสุขภาพจิตและป้องกันโรคไม่ติดต่อ
เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2568 กรมสุขภาพจิต นำโดย นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต พร้อมด้วยคณะผู้แทนประเทศไทย เข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ครั้งที่ 80 (80th Session of the United Nations General Assembly) ในการประชุมผู้บริหารระดับสูงว่าด้วยการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อ และการส่งเสริมสุขภาพจิตและสุขภาวะที่ดี รวมทั้ง
กิจกรรมเสริมอื่น ๆ (Side Events) ที่เกี่ยวข้อง ในระหว่างวันที่ 22-25 กันยายน 2568 ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า กรมสุขภาพจิตได้เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการประชุมผู้บริหารระดับสูงของสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อ และการส่งเสริมสุขภาพจิตและสุขภาวะที่ดี (High-level meeting on the prevention and control of noncommunicable diseases and the promotion of mental health and well–being : HLM on NCDs) รวมถึงอภิปรายเพื่อหารือเรื่องการปรับเปลี่ยนและเสริมสร้างระบบสุขภาพและกลไกทางการเงิน
ทุกประเภท ให้ตอบสนองต่อความต้องการของผู้ที่มีความเสี่ยงและผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่กับโรคไม่ติดต่อและภาวะสุขภาพจิต การเข้าร่วมประชุมครั้งนี้ เป็นโอกาสสำคัญที่ประเทศไทยได้แลกเปลี่ยนแนวทางการบูรณาการบริการสุขภาพปฐมภูมิและสุขภาพจิต การพัฒนากลไกทางการเงินที่ครอบคลุมสำหรับบริการสุขภาพจิตชุมชน การส่งเสริมให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพจิตของตนเอง รวมทั้งการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพจิตให้กับประชาชนทุกกลุ่ม ทั้งนี้ ประเทศไทยยังได้นำเสนอประสบการณ์ด้านหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
การจัดบริการสุขภาพจิตเชิงชุมชน และกลไกการป้องกัน ฟื้นฟู และส่งเสริมสุขภาพจิตที่สามารถสร้างความยั่งยืนในระยะยาว พร้อมทั้งแสดงบทบาทเชิงรุกในเวทีสหประชาชาติ ด้วยการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ด้านสาธารณสุขและสุขภาพจิตกับประเทศสมาชิกอื่น ๆ
นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อว่า ประเทศไทยสนับสนุนปฏิญญาทางการเมืองฉบับที่ 4 ว่าด้วยโรคไม่ติดต่อและสุขภาพจิตอย่างเต็มที่ โดยกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนความร่วมมือเพื่อเสริมสร้างระบบสุขภาพให้แข็งแกร่งและครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่ม ภายใต้หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐผ่านงบประมาณแผ่นดิน พร้อมพระราชบัญญัติสุขภาพจิต พ.ศ. 2562 ที่คุ้มครองสิทธิและการเข้าถึงการรักษาของผู้มีภาวะสุขภาพจิตอย่างเท่าเทียม ประเทศไทยได้พัฒนากลไกทางการเงินที่ครอบคลุมสำหรับบริการสุขภาพจิตชุมชน ตั้งแต่การป้องกัน การส่งเสริม การรักษา จนถึงการฟื้นฟู พร้อมทั้งเน้นการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพจิตในทุกระดับ เพื่อเพิ่มศักยภาพให้ชุมชนสามารถเข้าใจและตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพจิตของตนเองได้อย่างแท้จริง ความสำเร็จนี้สะท้อนให้เห็นว่าการบูรณาการสุขภาพจิตเข้ากับกลไกทางการเงินและการมีส่วนร่วมจากหลายภาคส่วนและชุมชนสามารถสร้างผลลัพธ์เชิงบวกและยั่งยืน ประเทศไทยยังมุ่งมั่นที่จะแบ่งปันประสบการณ์ด้านสุขภาพจิตโดยเฉพาะกับประเทศกำลังพัฒนา และพร้อมเรียนรู้ร่วมกับประชาคมโลก เพื่อสร้างระบบสุขภาพจิตที่เข้มแข็ง เท่าเทียม และยั่งยืนในระดับสากล
********************
27 กันยายน 2568