กรมสุขภาพจิต ลงนามบันทึกความร่วมมือกับสถาบันพระบรมราชชนก พร้อมร่วมประชุมวิชาการยกระดับการคัดกรองโรคซึมเศร้าในระบบปฐมภูมิ

          วานนี้ (2 ตุลาคม 2568) กรมสุขภาพจิตได้จัดพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) กับสถาบันพระบรมราชชนก ภายใต้โครงการความร่วมมือด้านบริการวิชาการสุขภาพจิต การศึกษา วิจัย และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางวิชาการ ระหว่างวันที่ 2–3 ตุลาคม 2568
ณ โรงแรมสุนีย์แกรนด์ จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีผู้บริหาร คณาจารย์ และผู้ทรงคุณวุฒิร่วมงานกว่า 120 คน พร้อมร่วมประชุมวิชาการ “Improving Depression Screening in Primary Care with PBRI Model and the Way Forward for an Integrated Approach to Primary Care” เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และพัฒนาระบบคัดกรองโรคซึมเศร้าในระบบบริการปฐมภูมิ พร้อมยกระดับมาตรฐานการดูแลผู้ป่วยจิตเวชของประเทศให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืน

          นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างกรมสุขภาพจิตกับสถาบันพระบรมราชชนก ภายใต้โครงการ “ความร่วมมือด้านบริการวิชาการสุขภาพจิต การศึกษา วิจัย และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางวิชาการ” ถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างสองหน่วยงาน เพื่อพัฒนาการศึกษาการวิจัย และนวัตกรรมด้านสุขภาพจิต ตลอดจนเพิ่มศักยภาพบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข พร้อมยกระดับมาตรฐานการดูแลผู้ป่วยโรคซึมเศร้าและผู้ป่วยจิตเวชของประเทศให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืน ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า มีผู้ป่วยโรคซึมเศร้าทั่วโลกกว่า 300 ล้านคน ขณะที่ประเทศไทยมีผู้ป่วยในกลุ่มอายุ 15 ปีขึ้นไป กว่า 1.5 ล้านคน อย่างไรก็ตาม
การเข้าถึงการคัดกรองในระบบสุขภาพปฐมภูมิยังอยู่ในระดับต่ำกว่า ร้อยละ 50 ซึ่งสะท้อนถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการพัฒนาระบบสุขภาพจิตให้ทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ การลงนามดังกล่าวจัดควบคู่กับการประชุมวิชาการ เรื่อง “Improving Depression Screening in Primary Care with PBRI Model and the Way Forward for an Integrated Approach to Primary Care” ณ โรงแรมสุนีย์แกรนด์ จังหวัดอุบลราชธานี มีผู้เข้าร่วมกว่า 120 คน ประกอบด้วย ผู้บริหาร คณาจารย์จากสถาบันพระบรมราชชนก และวิทยาลัยในสังกัด เครือข่ายวิชาการจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว รวมถึงผู้ทรงคุณวุฒิและวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ

          ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.นพ.วิชัย เทียนถาวร อธิการบดีสถาบันพระบรมราชชนก กล่าวว่า โรคซึมเศร้าเป็นปัญหาสาธารณสุขสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนและสร้างภาระต่อระบบสาธารณสุข หากไม่ได้รับการคัดกรองและดูแลรักษาอย่างเหมาะสม สถาบันพระบรมราชชนกจึงได้พัฒนา “สบช. โมเดล” ภายใต้แนวคิด “ปิงปองจราจรชีวิต 7 สี” เพื่อบูรณาการการคัดกรองสุขภาพกายและใจสู่ระบบบริการปฐมภูมิ โมเดลดังกล่าวสามารถประเมินความเสี่ยงทั้งโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง รวมถึงภาวะซึมเศร้าและความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความร่วมมือกับกรมสุขภาพจิตในครั้งนี้ยังมุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพนักศึกษาและบุคลากรทางการแพทย์ให้เป็นผู้ช่วยเหลือออนไลน์ (E-Helper) ภายใต้ระบบ “ต่อ-เติม-ใจ” พร้อมสนับสนุนงานวิจัยและนวัตกรรมด้านสุขภาพจิตให้สามารถประยุกต์ใช้จริงในระบบบริการปฐมภูมิทั่วประเทศ ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการยกระดับมาตรฐานวิชาชีพและคุณภาพการดูแลผู้ป่วยจิตเวช ตลอดจนขับเคลื่อนคุณภาพบริการด้านสุขภาพจิตของประเทศให้ก้าวหน้าสู่มาตรฐานสากลอย่างยั่งยืน

********************

4 ตุลาคม 2568

• ก่อนหน้า
• ต่อไป