Press ข่าววันนี้ 28 ตุลาคม 2568
- วันเผยแพร่
- ฮิต: 228

กรมสุขภาพจิต จับมือภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรม Workshop “ดูแลใจ...ใครว่าไม่สำคัญ : สร้าง Mind First Aid Literacy ในองค์กรอย่างยั่งยืน”
วันนี้ (28 ตุลาคม 2568) กรมสุขภาพจิต ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สถาบันวิชาการเพื่อความยั่งยืนทางสุขภาพจิต (TMS) สมาคมนักบริหารงานบุคคลแห่งประเทศไทย หรือ PMAT คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันราชสุดา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี และมูลนิธิสติแอพ จัดกิจกรรม Workshop “ดูแลใจ...ใครว่าไม่สำคัญ : สร้าง Mind First Aid Literacy ในองค์กรอย่างยั่งยืน” ณ Club Siam Glowfish อาคาร Siam Patumwan House ชั้น 11 โดยมีผู้เข้าร่วมจำนวน 65 คน จาก 63 หน่วยงาน เพื่อเสริมทักษะการปฐมพยาบาลทางใจ และสร้างวัฒนธรรมการดูแลใจในองค์กรอย่างยั่งยืน
นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ในห้วงเวลาที่สังคมไทยกำลังอยู่ในบรรยากาศแห่งความโศกเศร้าและการไว้อาลัยการดูแลใจเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ไม่เพียงในยามทุกข์หรือยามสูญเสีย แต่ยังหมายถึงการเข้าใจและดูแลกันในทุกช่วงเวลาของชีวิต สุขภาพจิตของบุคลากรเป็นปัจจัยสำคัญที่สะท้อนคุณภาพชีวิตและความเข้มแข็งขององค์กร กรมสุขภาพจิตจึงให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพจิต (Mental Health Literacy) เพื่อให้บุคลากรทุกระดับมีความเข้าใจ เห็นคุณค่า และสามารถดูแลสุขภาพจิตของตนเองและผู้อื่นได้อย่างเหมาะสม กิจกรรมในวันนี้มุ่งสร้างทักษะ “การปฐมพยาบาลทางใจ” (Mind First Aid) ซึ่งเป็นทักษะที่ทุกคนสามารถเรียนรู้และนำไปใช้ได้จริง โดยเฉพาะผู้นำองค์กรและผู้ดูแลบุคลากร เพื่อร่วมกันสร้างวัฒนธรรมการดูแลใจในองค์กรอย่างยั่งยืน
ดร.นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ ผู้อำนวยการสำนักความรอบรู้สุขภาพจิต และโฆษกกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า หลักสูตรนี้เกิดจากความร่วมมือของหลายหน่วยงานที่เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาระบบดูแลสุขภาพจิตในองค์กร เนื่องจากสุขภาพจิตไม่สามารถขับเคลื่อนโดยหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเพียงลำพัง หลักสูตรเน้นแนวคิด “มองทุกคนเป็นบุคลากรด้านสุขภาพจิต” เริ่มจากการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และสมรรถนะด้านสุขภาพจิตให้กับบุคลากร โดยเฉพาะบทบาทในการดูแลบุคลากร เช่น ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ (HR) เพื่อให้สามารถถ่ายทอดและขยายผลการดูแลสุขภาพจิตในองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
ผศ.ดร.ธีรพัฒน์ อังศุชวาล ผู้แทนสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จากผลสำรวจความคิดเห็นบุคลากร พบว่าร้อยละ 30 ต้องการบริการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิต สะท้อนถึงความสำคัญของการดูแลใจ และควรเข้าถึงได้ในฐานะสิทธิขั้นพื้นฐาน โครงการนี้จึงมุ่งสร้างระบบดูแลสุขภาพจิตในองค์กรและชุมชน ผ่านกลไก 4S และการพัฒนา “นักรับฟังทางใจ” จากกลุ่มคนพิการมากกว่า 100 คน เพื่อให้คำปรึกษาเบื้องต้น เป้าหมายสำคัญของโครงการคือ การเผยแพร่ชุดความรู้และกลไก “Mind First Aid” เพื่อให้ทุกคนมีทักษะดูแลใจเบื้องต้น และส่งเสริมการจ้างงานคนพิการในบทบาทนักปฐมพยาบาลทางใจ ซึ่งช่วยสร้างระบบสุขภาพจิตจากฐานราก ลดความเสี่ยงจากปัญหาทางจิตใจ และส่งเสริมสังคมที่เข้มแข็งเข้าใจซึ่งกันและกัน
คุณสุดคนึง ขัมภรัตน์ นายกสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) กล่าวว่า การจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย ร่วมกับภาคีเครือข่ายด้านสุขภาพจิต ขับเคลื่อนระบบดูแลสุขภาพจิตในองค์กร เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและสมดุลชีวิตกับการทำงาน เน้นว่า “สุขภาพจิตที่ดี” เป็นรากฐานขององค์กรเข้มแข็ง ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานและการพัฒนาศักยภาพบุคลากร พร้อมส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพจิต (Mental Health Literacy) และเปลี่ยนมุมมองให้ปัญหาสุขภาพจิตเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนสามารถได้รับการดูแล เพื่อให้องค์กร พนักงาน และสังคมไทยมีสุขภาวะทางจิตใจอย่างยั่งยืน
********************
28 ตุลาคม 2568
 
			


