Press ข่าววันนี้ 6 ธันวาคม 2568
- วันเผยแพร่
- ฮิต: 253

กรมสุขภาพจิตเพิ่มทีม MCATT ขยายเวลาการเดินเท้าเข้าเยียวยาจิตใจประชาชนในอำเภอหาดใหญ่
วันนี้ (6 ธันวาคม 2568) กรมสุขภาพจิตแสดงความห่วงใยทั้งประชาชนและผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ประสบอุทกภัย พร้อมขยายทีม “ทีมเดินเท้าเยี่ยมบ้านในชุมชน” เพื่อติดตามค้นหาผู้มีความเสี่ยงทางสุขภาพจิตเชิงรุก และพัฒนาแนวทางฟื้นฟูจิตใจให้เครือข่ายผู้ปฏิบัติหน้าที่ทุกภาคส่วนใช้ระหว่างให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยขอบคุณเจ้าหน้าที่กู้ภัย อปพร. หน่วยงานท้องถิ่น หน่วยงานสาธารณสุข ตำรวจ ทหาร รวมถึงอาสาสมัครและภาคประชาชนที่ร่วมทุ่มเททำงานอย่างหนักเพื่อความปลอดภัยของประชาชน
นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จากการดำเนินงานด้านสุขภาพจิตในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา หลังเผชิญอุทกภัยต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน ถึง 5 ธันวาคม 2568 มีทีม MCATT จากหลายจังหวัดสนับสนุนการลงพื้นที่เพื่อประเมินและคัดกรองด้านสุขภาพจิตแก่ประชาชนแล้ว 39,504 ราย โดยประกอบด้วย กลุ่ม A ผู้บาดเจ็บ ญาติผู้เสียชีวิต 759 ราย กลุ่ม B ประชาชนที่ได้รับผลกระทบทั่วไป 36,692 ราย กลุ่ม C ผู้ช่วยเหลือ/ผู้ปฏิบัติงาน 1,656 ราย และกลุ่ม D ประชาชนทั่วไปในชุมชน 397 ราย ขณะนี้ทีม MCATT ยังคงพบผู้มีภาวะเครียดสูงและความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้นเป็นระยะ โดยพบผู้มีความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตายจำนวน 105 ราย และในจำนวนนี้ร้อยละ 10 จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง ทั้งหมดได้รับการส่งต่อเพื่อรับการดูแลรักษาตามแนวทางที่วางไว้รวมถึงบันทึกข้อมูลเพื่อติดตามต่อเนื่อง กรมสุขภาพจิตยังคงปฏิบัติงานต่อเนื่อง โดยเฉพาะ “ทีมเดินเท้าเยี่ยมบ้านในชุมชน” ทั้งนี้อยากให้ประชาชนสำรวจจิตใจตัวเอง และคนรอบข้าง ว่ามีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของอารมณ์พฤติกรรม หรือบุคลิก ใดๆหรือไม่ เพื่อจะได้แจ้งต่อทีมที่ไปเยี่ยมบ้านหรือติดต่อแพทย์ใกล้บ้านเพื่อรับคำปรึกษาหรือโทรศัพท์สายด่วนสุขภาพจิต 1323, line OA 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
นายแพทย์กิตติศักดิ์ กล่าวเสริมว่า กรมสุขภาพจิตจะพัฒนาและถ่ายทอด หลักการปฐมพยาบาลทางใจ (Psychological First Aid: PFA) ที่เข้าใจง่าย ให้แก่ทีมหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข หน่วยกู้ภัย และเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้ประกอบการทำงานภารกิจของแต่ละหน่วย สื่อสารกับประชาชนอย่างถูกต้อง ลดความตึงเครียด และป้องกันผลกระทบทางใจระยะยาว ขอขอบคุณบุคลากรทุกภาคส่วนที่ร่วมปฏิบัติงานในภาวะวิกฤตครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นทีมกู้ภัย หน่วยสนับสนุนงานด้านโลจิสติกส์ ทีมแพทย์ พยาบาล นักจิตวิทยา จิตอาสา ไปจนถึงสื่อมวลชน ทุกความพยายามคือพลังสำคัญที่ช่วยให้ประชาชนปลอดภัย ขอขอบคุณทุกคนที่ทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจ เพราะภารกิจ ในสถานการณ์วิกฤตเช่นนี้ต้องการความร่วมมืออย่างเข้มแข็งจากทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตามผู้ช่วยเหลือในภาวะภัยพิบัติมักเผชิญความเหนื่อยล้าทั้งทางร่างกายและจิตใจ เพราะการปฏิบัติงานภายใต้ความกดดันต่อเนื่องอาจเสี่ยงต่อความเครียดเรื้อรัง ภาวะหมดไฟ (Burnout) และซึมเศร้าได้หากไม่ได้รับการดูแลตนเองอย่างเหมาะสม จึงขอให้ผู้ปฏิบัติงานเตรียมความพร้อมให้กับตนเองและดูแลใจตัวเองก่อน เพื่อจะดูแลประชาชนได้อย่างยั่งยืน
นายแพทย์จุมภฏ พรมสีดา รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวเสริมว่า สำหรับผู้ปฏิบัติงานที่เริ่มมีความเครียด อ่อนล้าจากการปฏิบัติงานต่อเนื่องเป็นเวลานาน สามารถประเมินสถานการณ์ทางใจผ่านทาง www.วัดใจ.com (Mental Health Check In) หรือ สำหรับวิธีการดูแลตนเองสามารถทำได้ดังนี้ 1. หาเวลาในการพัก ปรับสมดุลใจ ให้เวลาในการผ่อนคลาย ออกกำลังกายเบา ๆ หรือทำกิจกรรมที่ช่วยฟื้นฟูจิตใจ 2. พูดคุยแลกเปลี่ยนกับทีม เพื่อลดความเครียดสะสมและรับรู้ว่าตนเองไม่ได้เผชิญสถานการณ์หนักเพียงลำพัง 3. กลับเข้าสู่งานประจำอย่างค่อยเป็นค่อยไป หลีกเลี่ยงการเร่งทำงานหนักทันทีหลังภารกิจ 4. ลดภาระงานบางส่วนชั่วคราว หากรู้สึกอ่อนล้าหรือยังมีอาการเครียด 5. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2 สัปดาห์ โดยเฉพาะอาการนอนไม่หลับ หงุดหงิดง่าย สมาธิลดลง นอกจากนี้ให้สังเกตสัญญาณเตือนเสี่ยงทางสุขภาพจิตของเพื่อนร่วมงาน หากพบมีความผิดปกติ ให้พูดคุยให้กำลังใจเบื้องต้น หากไม่ดีขึ้นให้พาพบเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้เคียงทันที
********************
6 ธันวาคม 2568

