rudolph reindeer web-01

"ขอเป็น”รูดอล์ฟ”ในแบบฉบับของตัวเอง ดีที่สุด !" 

 

ตามตำนานเล่าว่า ซานต้าคลอส (Santa Claus) หรือ ฟาเธอร์คริสมาสต์ (Father Christmas) จะตระเตรียมของเล่นพร้อมกับเหล่าเอลฟ์ เพื่อมาแจกเป็นของขวัญให้เด็กๆที่ประพฤติตัวตัวดีทั่วโลกในค่ำคืนวันคริสมาสต์อีฟและเช้าวันคริสมาสต์ มาพร้อมกับเสียงหัวเราะอันคุ้นเคยตลอดเส้นทางที่ลากเลื่อนผ่าน “โฮ่ โฮ่ โฮ่ !” 🎅🏻

เชื่อกันว่า...เลื่อนของลุงซานต้า ที่เป็นพาหนะพาเขาไปแจกของขวัญทุกหนทุกแห่งนั้น เดิมทีถูกลากด้วยกวางเรนเดียร์ทั้งหมด 8 ตัว “แดชเชอร์ บลิทเซ่น ดอนเดอร์ คิวปิด โคเมท วิคเซ่น แพรนเซอร์ และแดนเซอร์”

เจ้ากวางเรนเดียร์ทั้ง 8 ตัวนั้น ไม่ได้เป็นแค่กวางเรนเดียร์ธรรมดาๆ แต่พวกเขามีพลังวิเศษที่เหนือกว่ากวางเรนเดียร์ทั่วไปอีกด้วย ...เจ้าแดชเชอร์เป็นกวางที่วิ่งได้เร็วที่สุดโดยไม่มีกวางตัวไหนตามทัน เจ้าบลิทเซ่นและดอนเดอร์มีพลังพิเศษในการซึมซับพลังของสายฟ้าให้ทีมของเขาพุ่งทะยานไปอย่างรวดเร็วประหนึ่งเดอะแฟลช เจ้าคิวปิดเป็นกวางที่มีแต่คนรักสามารถส่งความรักไปยังผู้คนอื่นได้ เจ้าโคเมทเป็นกวางที่หล่อที่สุด มีสเน่ห์ แถมยังเป็นกวางง่ายๆเข้ากับเด็กๆได้ดี เจ้าวิคเซ่นนั้นขี้เล่นมีสเน่ห์คอยทำให้ทุกคนหัวเราะอยู่เสมอแม้ยังไม่ได้รับของขวัญ ส่วนเจ้าแพรนเซอร์ได้รับสมยานามว่าเป็นกวางที่สง่าผ่าเผยที่สุด คอยสร้างแกรนด์โอเพนนิ่งให้คุณลุงซานต้า และเจ้าแดนเซอร์ที่มักจับคู่เต้นกับเจ้าแพรนเซอร์และลากเลื่อนไปพร้อมๆกัน

“พี่ๆกวางเรนเดียร์ทั้ง 8 ตัว ที่พรั่งพร้อมไปด้วยพลังสุดวิเศษก็ดูเหมือนจะเพียงพอแล้วสำหรับการออกทริปจากขั้วโลกเหนือ” ...เจ้ากวางเรนเดียร์น้องเล็กสุด ที่ชื่อ รูดอล์ฟ คิดในใจ
.
.
#รูดอล์ฟ เป็นกวางเรนเดียร์อายุน้อยที่สุด หน้าตาก็บ้านๆ แถมยังไม่มีพลังพิเศษอย่างใครเขา มีเพียงแต่จมูกสีแดงๆที่ต่างไปจากคนอื่น เลยกลายเป็นเป้าหมายให้ถูกล้อเลียนจากกวางตัวอื่นๆอยู่เสมอ ..."รูดอล์ฟ"ถูกมองเป็นความแตกต่าง "รูดอล์ฟ"ถูกมองเป็นความแปลกแยก "รูดอล์ฟ"ถูกมองเป็นความไม่สมบูรณ์ "รูดอล์ฟ"ถูกมองว่าไร้ค่าไร้ประโยชน์

ไม่มีใครอยากเล่นด้วยกับกวางจมูกแดงอย่างรูดอล์ฟ ไม่ต้องคิดถึงเรื่องการรับหน้าที่ลากเลื่อนอันทรงเกียรติเลยด้วยซ้ำไป
.
.
“คงไม่มีใครต้องการฉัน ในวันคริสมาสต์ ทำไมฉันไม่เหมือนกวางตัวอื่นๆนะ” รูดอล์ฟก้มหน้าลงพร้อมจมูกสีแดงของเขาในค่ำคืนที่หนาวเหน็บ พร้อมกับพายุหิมะที่แรงขึ้นจนปกคลุมทั่วท้องฟ้า

“ฉันต้องการเธอ!” เสียงหนึ่งดังขึ้น“ฉันอยากให้เธอมาช่วยฉันลากเลื่อนในคืนนี้ ฉันอยากให้เธอมานำหน้าสุดของขบวนกวางเรนเดียร์ทั้งหมด จมูกสีแดงที่กำลังส่องแสงของเธอจะนำทางเราฝ่ายพายุหิมะไปแจกของขวัญเด็กๆกัน” คุณลุงซานต้าผู้ใจดีบอกกับกวางน้อยจมูกแดง

กวางเรนเดียร์ทั้ง 8 ตัวและเจ้ารูดอล์ฟ จึงเริ่มสังเกตเห็นแสงสว่างบนจมูกสีแดงของน้องเล็กอย่างรูดอล์ฟ แสงบนจมูกนั้นส่องสว่างเสียจนสามารถพาคณะของซานต้าผ่านเส้นทางวิสัยทัศน์แย่ๆไปได้อย่างงายดาย โอ้วววว

เมื่อทุกคนเห็นเช่นนั้นตรงกัน จึงเข้ามาคุยกับรูดอล์ฟดีๆ ขอโทษ ให้กำลังใจ และยอมรับในกวางตัวน้อยจมูกแดงตัวนี้ และตัวรูดอล์ฟเองก็กล้าพอที่จะขึ้นนำขบวน กลายเป็น”กวางตัวที่ 9”พาคุณลุงซานต้าฝ่าพายุหิมะไปแจกของขวัญให้เด็กๆได้สำเร็จในที่สุด

ในชีวิตจริง เราเองทุกคนคงเคยรู้สึกเหมือนเจ้ากวางน้อยรูดอล์ฟจมูกแดงไม่มากก็น้อย
.
.
.
เราทุกคนเคยรู้สึกแตกต่าง เราเคยรู้สึกแปลกแยก เราถูกคนอื่นมองว่าไม่สมบูรณ์ เราถูกมองว่าไร้ประโยชน์ และหลายๆครั้งเราถูกปฏิเสธ ถูก bully

อาจมีคนเคยบอกว่าเราแตกต่าง เพียงเพราะเราอ้วนกว่าเขา เราดำกว่าเขา เราเตี้ยกว่าเขา และเราพูดไม่เก่งอย่างเขา

อาจมีคนเคยบอกว่าเราแปลกแยก เพียงเพราะคิดไม่เหมือนเขา เราไม่ชอบทำในสิ่งที่คนอื่นเค้าชอบกัน แต่เราชอบในสิ่งที่คนอื่นไม่เข้าใจ

อาจมีคนเคยบอกว่าเราไม่สมบูรณ์ เพียงเพราะหน้าตาเราแย่กว่าเขา ทั้งๆที่เราเองก็อยากจะสมบูรณ์แบบเหมือนคนอื่น ไม่มีใครอยากเกิดมาพร้อมข้อบกพร่อง

อาจมีคนเคยบอกว่าเราไร้ประโยชน์ ทั้งๆที่ยังไม่ได้เปิดโอกาสให้เราได้ทำประโยชน์เลยสักครั้งเดียว

เราถูกกลั่นแกล้งและปฏิเสธไปไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งจากคนที่ไม่เห็นคุณค่าในตัวเรา แน่นอนการถูกปฏิเสธย่อมทำให้เราเสียใจ อาจทำให้เราหมดความมั่นใจ

....แต่เราเคยถามตัวเองบ้างไหม ว่าการถูกปฏิเสธนั้น ลดคุณค่าในตัวตนของเราจริงหรือ ?

การที่รูดอล์ฟถูกปฏิเสธจากกวางตัวอื่นไม่ได้ทำให้จมูกของเขาสีแดงน้อยลง และก็ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการส่องแสงนำทางของเขาลดลงไปด้วย เขาเพียงอดทนรอโอกาสที่จะได้โชว์มันออกมาให้คนอื่นได้เห็น เพราะหากรูดอล์ฟมีความสามารถเหมือนกวางเรนเดียร์ตัวอื่นๆแล้ว คณะของซานต้าคงไม่สามารถฝ่าพายุหิมะไปได้อย่างแน่นอน

เราทุกคนควรเรียนรู้จากรูดอล์ฟ เรียนรู้ที่จะแตกต่าง ลองคิดดูว่าหากทุกคนนิสัยเหมือนกันและคิดเหมือนกันไปซะหมด เราคงไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรบนโลกนี้ได้เลย วันนี้คนอื่นอาจไม่เข้าใจในคุณค่าของความแตกต่างในตัวเรา ก็ไม่เป็นไร เราจะเก็บความแตกต่างนี้ไว้ รอวันที่มันจะส่องแสงเหมือนจมูกของรูดอล์ฟ

...เพราะโลกใบนี้ต้องการความแตกต่างในการก้าวไปข้างหน้า โลกใบนี้ถูกแต่งเติมสีสันด้วยความแตกต่างของแต่ละคน ทุกคนล้วนสมบูรณ์แบบในความไม่สมบูรณ์แบบของตัวเอง

"ขอเป็น”รูดอล์ฟ”ในแบบฉบับของตัวเอง ดีที่สุด !"
.
.
.
นอกจากเรียนรู้ที่จะเป็น เจ้ากวางน้อยรูดอล์ฟ ผู้มีคุณค่าในตัวเองแล้ว เราก็ควรจะเรียนรู้ที่จะเป็น “ซานต้าคลอส” ให้กับใครสักคนด้วย ....

เจ้ากวางน้อยรูดอล์ฟ คงจะเป็นเหมือนเพียงกระสือในวันคริสต์มาสต์ ที่ลอยไปลอยมาไม่มีแก่นสาร หากไม่มีคนแบบซานต้าคลอสที่สังเกตเห็นความแตกต่างของเจ้ากวางน้อยตัวนี้ เอาจริงๆแล้วคุณลุงซานต้าไม่ได้เพียงแค่สังเกตเห็นความแตกต่างหรอกนะ แต่เขายอมรับในความแตกต่าง เขารู้ว่าสิ่งนั้นสามารถสร้างมูลค่าได้ขนาดไหน ลุงซานต้าไม่ได้เห็นจมูกสีแดงมีไฟวิบวับของรูดอล์ฟแล้วบอกว่า ”เออ สวยดี” แล้วจับรูฟดอล์ฟไปแขวนประดับบนต้นคริสมาสต์

ซานต้าคลอสเห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น เห็นในสิ่งที่แม้แต่เจ้าตัวเองก็คิดว่าเป็นไปไม่ได้ จมูกของรูดอล์ฟที่ส่องสว่างไม่ได้เกิดจากแค่ตัวรูดอล์ฟเองเพียงอย่างเดียว แต่แสงสว่างนำทางนั้นเกิดจากการ”ให้โอกาส”ของคุณลุงซานต้าผู้ใจดี โอกาสที่ให้กับผู้ที่ถูกคนอื่นมองข้ามไป

จริงๆแล้วการให้โอกาสไม่เพียงเกิดประโยชน์กับ”ผู้รับโอกาส”เท่านั้น แต่ยังเกิดผลดีกลับมาที่”ผู้ให้โอกาส”อีกด้วย ....ลองคิดๆดู ถ้าไม่มีแสงไฟจากจมูกรูดอล์ฟ แก๊งค์กวางลากเลื่อนก็คงไม่สามารถพุ่งทะยานไปในท้องฟ้าที่วิสัยทัศน์ย่ำแย่ได้ คุณลุงซานต้าเองก็คงกลายเป็นตาลุงไร้ตัวตนนั่งจมกองของขวัญอยู่กับบ้านที่ขั้วโลกเหนือ เพราะฝ่าพายุหิมะออกไปเจอเด็กๆไม่ได้นั่นเอง

"คนที่ชอบให้โอกาสผู้อื่น จะกลายเป็น คนที่ได้รับโอกาสจากผู้อื่น ในที่สุด"

🎅🏻⛄️