Press ข่าววันนี้ 5 สิงหาคม 2568
- วันเผยแพร่
- ฮิต: 255
กระทรวงสาธารณสุข จับมือภาคีเครือข่าย เดินหน้าร่วมสร้างพลังใจ สร้างระบบสุขภาพจิตที่เข้มแข็งทั่วไทย
วันนี้ (5 ส.ค. 68) กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมสุขภาพจิต จัดโครงการสัมมนา “ร่วมสร้างพลังใจ สุขภาพจิตไทยยั่งยืน” Better Mental Health Care for All ณ โรงแรมปริ๊น พาเลซ กรุงเทพมหานคร โดยนายชัยชนะ เดชเดโช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดงาน พร้อมเน้นย้ำการส่งเสริมความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายและระบบสุขภาพปฐมภูมิ ในการดูแลสุขภาพจิตประชาชนอย่างทั่วถึง เข้าถึงบริการง่าย พร้อมส่งเสริมสร้างชุมชนที่มีความเข้าใจ เห็นอกเห็นใจ และไม่ตีตราผู้ที่มีปัญหาทางสุขภาพจิต
นายชัยชนะ เดชเดโช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และภัยพิบัติ รวมถึงสถานการณ์โรคระบาดและความขัดแย้งที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยรวม ซึ่งไม่เพียงแต่กระทบต่อสุขภาพกายเท่านั้น แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพจิตของประชาชนทุกกลุ่มวัย โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ ผู้มีรายได้น้อย และผู้ที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ที่อาจต้องเผชิญกับความเครียด ความวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า หรือแม้แต่การเสี่ยงต่อการทำร้ายตนเอง การแก้ไขปัญหาดังกล่าวจึงต้องดำเนินการอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง โดยอาศัยพลังความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน ท้องถิ่น และภาคประชาชน เพื่อสร้างระบบบริการสุขภาพจิตที่เข้มแข็งและทั่วถึง ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ พร้อมส่งเสริมให้ทุกคนมีทักษะในการดูแลจิตใจตนเองและผู้อื่น ตลอดจนสร้างชุมชนที่มีความเข้าใจ เห็นอกเห็นใจ และไม่ตีตราผู้ที่มีปัญหาทางสุขภาพจิต อันจะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างรอบด้านและยั่งยืน การสร้างระบบการดูแลสุขภาพจิตที่มีประสิทธิภาพครอบคลุมทุกมิติ โดยเฉพาะการพัฒนาและเสริมสร้างกลไกการดูแลสุขภาพจิตผ่านระบบสุขภาพปฐมภูมิในระดับพื้นที่ ซึ่งเป็นแนวทางที่สามารถเข้าถึงประชาชนได้ใกล้ชิด และตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาในพื้นที่ได้ตรงประเด็นที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของยาเสพติดที่ยังคงแพร่กระจาย และระบบบริการสุขภาพจิตในระดับชุมชน
นายแพทย์จุมภฎ พรมสีดา รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อว่า การประชุมในครั้งนี้ประกอบด้วยเครือข่ายหลายภาคส่วนทุกระดับในพื้นที่ ตลอดจนบุคลากรจากทั้งในและนอกกระทรวงสาธารณสุขกว่า 600 คน ซึ่งภายในงานมีเครือข่ายที่มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นเข้าร่วมนำเสนอผลงานในรูปแบบ Oral presentation และในรูปแบบของโปสเตอร์ รวมทั้งสิ้น 107 แห่ง แบ่งเป็น 8 ประเด็นได้แก่ 1. พลังชุมชนดูแลสุขภาพจิตและสารเสพติด 2. ทีม 3 หมอดูแลสุขภาพจิตและสารเสพติด 3. ชุมชนสุขภาพจิตดี 4. สถานประกอบการกับการดูแลใจพนักงาน 5. มหาวิทยาลัยกับการดูแลใจนักศึกษา 6. การดูแลจิตใจผู้สูงอายุ 7. จังหวัดกับการขับเคลื่อนงานสุขภาพจิต 8. PCU คุณภาพกับการดูแลจิตใจในชุมชน ดังนั้น การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ภายใต้แนวคิด “ร่วมสร้างพลังใจ สุขภาพจิตไทยยั่งยืน” Better Mental Health Care for All ครั้งนี้ ถือเป็นเวทีสำคัญในการสร้างความเข้าใจร่วมกัน ระหว่างผู้ปฏิบัติงานในระดับพื้นที่ หน่วยงานสนับสนุน และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งในด้านการพัฒนาศักยภาพบุคลากร การเสริมสร้างระบบเฝ้าระวัง การให้บริการสุขภาพจิตเชิงรุก การคัดกรองปัญหาและส่งต่อผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการสนับสนุนทรัพยากรและงบประมาณที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นให้แต่ละพื้นที่สามารถออกแบบแนวทางการดำเนินงานที่สอดคล้องกับบริบทปัญหา ความต้องการ และศักยภาพของชุมชนของตนเอง โดยมีจุดมุ่งหมายสูงสุดคือการสร้างสังคมที่ทุกคนสามารถเข้าถึงการดูแลทางใจอย่างเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำด้านสุขภาพ และส่งเสริมสุขภาวะทางใจให้กับคนไทยอย่างยั่งยืน
********************
5 สิงหาคม 2568