press 220264


กรมสุขภาพจิต ร่วมกับ สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล บูรณาการทางวิชาการสื่อสารแรงงานข้ามชาติ เพื่อลดปัญหาสังคมจากการระบาดโควิด
19 

    วันนี้ (22 กุมภาพันธ์ 2564) กรมสุขภาพจิต ร่วมกับ สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือส่งเสริมและพัฒนาความร่วมมือทางวิชาการเพื่อรองรับสถานการณ์และผลกระทบอันเกิดจากสถานการณ์โรคโควิด 19  โดยมีเป้าหมายเพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการรับมือกับสถานการณ์ปัจจุบัน และสร้างความเข้าใจในการรับมือกับสถานการณ์ด้านการสื่อสารระหว่างวัฒนธรรมในกลุ่มแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน

    แพทย์หญิงพรรณพิมล  วิปุลากร อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด 19 ในประเทศไทยที่เริ่มมีการระบาดระลอกใหม่  อีกทั้งมีแนวโน้มที่จะมีความรุนแรงมากขึ้น ทั้งจากการแพร่ระบาดอันมีที่มาจากแรงงานข้ามชาติ  ซึ่งสถานการณ์การระบาดในครั้งนี้  มีอุปสรรคที่สำคัญคือเรื่องของการสื่อสารและสร้างความเข้าใจเพื่อขอความร่วมมือจากกลุ่มแรงงานข้ามชาติ  แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภาครัฐได้รับการสนับสนุนจากหลายภาคส่วนและที่สำคัญที่สุดคือ การสนับสนุนจากสถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล  ให้ความร่วมมือในการเป็นสื่อกลางในการสื่อสารในพื้นที่ที่มีการควบคุมเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความราบรื่น  จึงเป็นนิมิตรหมายอันดีที่การบูรณาการองค์ความรู้และการสื่อสารวัฒนธรรมระหว่างกลุ่มแรงงานข้ามชาติกับสังคมไทย  จะเป็นการส่งเสริมสังคมพหุวัฒนธรรมที่ยั่งยืนบนพื้นฐานสิทธิมนุษยชนและการมีชีวิตที่ดีของประชากร และผู้ที่ย้ายถิ่นเข้ามาในประเทศไทยอีกด้วย 

    ศาสตราจารย์นายแพทย์บรรจง มไหสวริยะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ในขณะนี้นอกจากประชาชนชาวไทยที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์โรคระบาดแล้ว  กลุ่มแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านที่จังหวัดสมุทรสาครและจังหวัดอื่น ๆ ก็ประสบปัญหาภาวะโรคระบาดเช่นกัน  การแก้ปัญหาโรคระบาดและช่วยเหลือกลุ่มแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านเป็นประเด็นทางมนุษยธรรมที่ภาคส่วนต่าง ๆ ในสังคมไทยต้องร่วมมือกันให้ความช่วยเหลือ  ทางมหาวิทยาลัยมหิดลมีความห่วงใยและพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับกรมสุขภาพจิตอย่างจริงจัง  ในการดำเนินงานวิจัย การบริการวิชาการและการส่งเสริมและพัฒนาความร่วมมือในการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการรับมือกับสถานการณ์ปัจจุบัน และสร้างความเข้าใจในการรับมือกับสถานการณ์ด้านการสื่อสารระหว่างวัฒนธรรมในกลุ่มแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อรับมือกับสถานการณ์ระบาดระลอกใหม่นี้  นำไปสู่การร่วมกันแก้ไขปัญหาและเสริมสร้างความเข้มแข็งและการพัฒนาสังคมไทยและอาเซียนต่อไป

    แพทย์หญิงพรรณพิมล  กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมสุขภาพจิต หวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือระหว่างกรมสุขภาพจิต และสถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล จะเป็นกำลังสำคัญที่จะร่วมกันเผยแพร่ความรู้ และสร้างความเข้าใจในการรับมือกับสถานการณ์การระบาดโรคโควิด 19 และการแก้ปัญหาสังคมด้วยกลไกการสื่อสารระหว่างวัฒนธรรม  โดยใช้ความรู้และความเชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชียและองค์ความรู้กรมสุขภาพจิต   นำไปสู่ความร่วมมือทางวิชาการเพื่อลดผลกระทบอันเกิดจากสถานการณ์โรคโควิด 19  และพัฒนาความมั่นคงในทุกด้านของประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนอย่างยั่งยืน

.............................................

                                                                                                                                   22 กุมภาพันธ์ 2564