Press ข่าววันที่ 23 กรกฎาคม 2568
- วันเผยแพร่
- ฮิต: 140
กระทรวงสาธารณสุข โดย กรมสุขภาพจิต รับนโยบายยกระดับคุณภาพชีวิตเด็กไทยอย่างยั่งยืน พร้อมขยายผลเคลื่อนโครงการ “เลี้ยงเก่ง ลูกเก่ง” เสริมสร้างทักษะการเลี้ยงดูเพื่อสร้างเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย
ในระหว่างวันที่18 – 21 กรกฏาคม 2568 กระทรวงสาธารณสุข โดย กรมสุขภาพจิต ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินโครงการ “เลี้ยงเก่ง ลูกเก่ง ด้วย Thai Triple-P” (Thai Preschool Parenting Program) เพื่อส่งเสริมทักษะการเลี้ยงดูเด็กปฐมวัย เสริมสร้างพัฒนาการและความฉลาดทางอารมณ์ของเด็ก ผ่านกิจกรรมกลุ่มแบบมีส่วนร่วม โดยในโอกาสนี้ มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างกรมสุขภาพจิต เขตสุขภาพที่ 11 สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใน 6 อำเภอของจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้แก่ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ณ โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ,อำเภอหัวไทร ณ โรงพยาบาลหัวไทร , อำเภอปากพนัง ณ สำนักงานเทศบาลเมืองปากพนัง ,อำเภอนบพิตำ ณ โรงพยาบาลนบพิตำ , อำเภอท่าศาลา ณ โรงพยาบาลท่าศาลา และอำเภอพระพรหม ณ โรงพยาบาลพระพรหม นอกจากนี้ ยังมีการลงนามร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบล อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ณ เทศบาลเมืองท่าข้าม
นายชัยชนะ เดชเดโช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในการดูแลเด็กปฐมวัย 0 - 6ปี เป็นการวางรากฐานที่สำคัญในการสร้างอนาคตของชาติให้มั่นคงและเข้มแข็ง โดยต้องเริ่มตั้งแต่การเตรียมพ่อแม่ก่อนคลอด การส่งเสริมวัคซีนและสารไอโอดีนเพื่อพัฒนาสมองและร่างกายเด็ก จนกระทั่งการดูแลแม่และเด็กแรกคลอด ทั้งกายและใจก่อนที่จะต้องออกไปใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นในสังคม จึงมอบหมายให้กรมสุขภาพจิตร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราชและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ดำเนินโครงการ “เลี้ยงเก่ง ลูกเก่ง ด้วย Thai Triple-P” เพื่อส่งเสริมทักษะการเลี้ยงดูเด็กของผู้ปกครองเพื่อส่งเสริมพัฒนาการและความฉลาดทางอารมณ์ของเด็กปฐมวัยในเขตสุขภาพที่ 11 ให้ได้รับการเลี้ยงดูอย่างเหมาะสมจากพ่อแม่ผู้ปกครองสามารถเติบโตอย่างสมวัย มีสุขภาพจิตที่ดี โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนมาตรการใน “เดือนแห่งสุขภาพใจ (Mind Month)” ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2568 ที่กำหนดให้เดือนพฤษภาคมของทุกปีเป็นช่วงเวลาส่งเสริมสุขภาพจิตของประชาชน โดยเฉพาะในช่วงปฐมวัย ซึ่งเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญของพัฒนาการเด็ก ทั้งนี้ Thai Triple-P เป็นโปรแกรมฝึกทักษะการเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยที่เน้นการสร้างสัมพันธภาพในครอบครัว ฝึกให้พ่อแม่มีทักษะ ความรู้ และทัศนคติที่เหมาะสมในการดูแลลูก ใช้แนวทางการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม (Participatory Learning) และการเสริมพลัง (Empowerment) พร้อมประยุกต์คู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็ก (DSPM) ผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์ เช่น กอดสร้างสุข นิทาน สร้างวินัย สร้างความภูมิใจ และสมาธิสร้างความสบาย เพื่อให้เกิดการเรียนรู้แบบบูรณาการในทุกด้านของพัฒนาการเด็ก ผ่านการจัดกิจกรรมกลุ่มละ 15 - 30 ครอบครัว จำนวน 4 ครั้ง โดยผู้นำกิจกรรมเป็นบุคลากรสาธารณสุขและครูในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กหรือโรงเรียนอนุบาลที่ผ่านการอบรมโดยตรง
นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อว่า โครงการนี้มีเป้าหมายชัดเจนในการพัฒนาเด็กไทยให้มีระดับ IQ ไม่ต่ำกว่า 103 และ EQ อยู่ในระดับปกติขึ้นไปร้อยละ 85 ตามเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ และแผนพัฒนาสุขภาพจิตแห่งชาติฉบับที่ 1 โดยเฉพาะ ในเขตสุขภาพที่ 11 ซึ่งผลการสำรวจในปี 2564 พบว่าเด็กปฐมวัยในเขตสุขภาพที่ 11 มีระดับสติปัญญา (IQ) และความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) ยังไม่ถึงเป้าหมายตามที่กำหนดไว้ ซึ่งสะท้อนถึงความจำเป็นในการเร่งเสริมทักษะการเลี้ยงดูของครอบครัว จากผลการดำเนินงานที่ผ่านมาในโครงการส่งเสริมพัฒนาการเด็กในถิ่นทุรกันดาร (กพด.) ภายใต้พระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ พบว่า โปรแกรม Thai Triple-P ช่วยเพิ่มพัฒนาการสมวัยจากร้อยละ 41.36 เป็น 60.62 เพิ่ม EQ จากร้อยละ 87.61 เป็น 96.67 และเพิ่มทักษะการเลี้ยงดูของพ่อแม่จากร้อยละ 45.18 เป็น 69.93 ตั้งเป้าดำเนินการปี 2568 50,000 ครอบครัว และครอบครัวได้รับการพัฒนาเป็น 1.5 ล้านครอบครัวภายในปี 2572 เพื่อสร้างพ่อแม่ที่อ่อนโยน (Gentle Parents) เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ลูก พร้อมปลูกฝังคุณลักษณะ GENTLE ได้แก่ ใจกว้างรับฟัง (Generous), เสริมพลัง (Empower), เอาใจใส่ (Nurturing), ไว้วางใจได้ (Trustworthy), ยืดหยุ่น (Lenient) และมีความอดทน (Endurance) อันเป็นรากฐานสำคัญของครอบครัวอบอุ่นและสังคมที่มั่นคง
23 กรกฎาคม 2568