Press ข่าววันที่ 22 กันยายน 2568
- วันเผยแพร่
- ฮิต: 254
กรมสุขภาพจิต เตือนประชาชนเตรียมพร้อมรับมือพายุคาจิกิ – พายุหนองฟ้า เน้นดูแลสุขภาพกายใจ ผู้ป่วยต้องไม่ขาดยา พร้อมบูรณาการทีม MCATT เขตสุขภาพที่ 1, 2 และ 3 เฝ้าระวังสถานการณ์ทางใจ พร้อมเตรียมแผนในการเยียวยาจิตใจอย่างใกล้ชิด
วันนี้ (22 กันยายน 2568) กรมสุขภาพจิตเตือนประชาชนรับมือสถานการณ์พายุคาจิกิและพายุหนองฟ้า ที่ส่งผลกระทบต่อหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยขอให้เตรียมความพร้อมทั้งกายและใจ ภายใต้หลัก “รับมือ เตรียมใจ ปลอดภัย ไม่ขาดยา” พร้อมแนะนำ5 วิธีดูแลสุขภาพจิตเพื่อไม่ให้ภาวะเครียดหรืออาการกำเริบ และจัดส่งทีม MCATT กรมสุขภาพจิตบูรณาการกับเขตสุขภาพที่ 1, 2 และ 3 ลงพื้นที่เยียวยาผู้ประสบภาวะวิกฤต ทั้งนี้ หากประชาชนมีความเครียด วิตกกังวล หรือภาวะทางใจ สามารถขอคำปรึกษาได้ ตลอด 24 ชั่วโมงที่สายด่วนสุขภาพจิต 1323
นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จากสถานการณ์พายุคาจิกิและพายุหนองฟ้าที่ก่อให้เกิดฝนตกหนักน้ำท่วม และสร้างความเสียหายแก่หลายพื้นที่ทั่วประเทศ กรมสุขภาพจิตมีความห่วงใยต่อสุขภาพจิตของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยจิตเวชที่จำเป็นต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องและไม่ควรขาดยารักษาโรค จึงขอให้ประชาชนเตรียมความพร้อมทั้งด้านร่างกายและจิตใจภายใต้แนวทาง “รับมือ เตรียมใจ ปลอดภัย ไม่ขาดยา” โดยขอเน้นย้ำการปฏิบัติตาม 5 วิธีสำคัญ ได้แก่ 1) จัดเตรียมยาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็นให้เพียงพอ หากใกล้หมดควรรีบติดต่อสถานพยาบาลใกล้บ้านเพื่อขอรับยาเพิ่มเติม 2) ติดตามข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเปลี่ยนแปลงได้อย่างฉับพลัน 3) เฝ้าระวังอาการกำเริบจากความเครียดหรือการขาดยา โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยจิตเวช 4) สังเกตอาการผิดปกติ เช่น นอนไม่หลับ พูดคนเดียว เดินไปเดินมาอย่างกระสับกระส่าย หงุดหงิดง่าย หรือมีอาการหวาดระแวง หากพบควรรีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรืออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) โดยทันที และ 5) พูดคุยหรือทำกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายจิตใจ เพื่อสร้างความสงบและลดความตึงเครียด ทั้งนี้ หากเกิดเหตุฉุกเฉินสามารถติดต่อโรงพยาบาลใกล้บ้าน
หรือสายด่วนการแพทย์ฉุกเฉิน 1669 เพื่อรับความช่วยเหลือได้ทันท่วงที
นายแพทย์จุมภฏ พรมสีดา รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ รวมทั้งเหตุเขื่อนแตกที่เกิดขึ้น ซึ่งยังคงมีความเสี่ยงจากการที่พายุอาจเคลื่อนเข้าสู่พื้นที่อีกครั้ง กรมสุขภาพจิตจึงได้จัดส่งทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤต (Mental Health Crisis Assessment and Treatment Team : MCATT) ลงพื้นที่เพื่อให้การดูแล ฟื้นฟู และประสานงานร่วมกับเครือข่ายในพื้นที่อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ กรมสุขภาพจิตได้กำหนดข้อสั่งการเพิ่มเติม ได้แก่ 1) ให้มีการจัดทำข้อมูลผลการเยียวยาจิตใจแยกตามระดับความใกล้ชิดเหตุการณ์ (Proximity) เพื่อสะท้อนภาพรวมและประสิทธิภาพของการดูแลด้านสุขภาพจิตอย่างรอบด้าน และ 2) ให้มีการรายงานผลการเยียวยาจิตใจกรณีได้รับผลกระทบจากพายุคาจิกิและพายุหนองฟ้าอย่างเป็นระบบ เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการวางแผนและพัฒนาการช่วยเหลือในระยะต่อไป ทั้งนี้ กรมสุขภาพจิตยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เน้นการดูแลสุขภาพจิตควบคู่กับสุขภาพกาย พร้อมขอเชิญชวนประชาชนร่วมปฏิบัติตามหลัก “3 ส. เยียวยาใจ” ได้แก่ สอดส่องมองหา ใส่ใจรับฟัง และส่งต่อเชื่อมโยง และหากมีความเครียด วิตกกังวล หรือความทุกข์ใจ สามารถขอรับคำปรึกษาและความช่วยเหลือได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านสายด่วนสุขภาพจิต 1323
********************
22 กันยายน 2568