กรมสุขภาพจิต ร่วมกับ กรมการจัดหางาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ สนับสนุน เปิดตัว โครงการ “Gifted Listeners พลังพิเศษจากผู้พิการ ร่วมสร้างสังคมสุขภาพจิตดี”

          วันนี้ (10 กันยายน 68) กรมสุขภาพจิต สนับสนุน โครงการ “นักรับฟัง พลังพิเศษ” หรือ Gifted Listeners ที่ริเริ่มโดย สถาบันวิชาการเพื่อความยั่งยืนทางสุขภาพจิต, คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, สถาบันราชสุดา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และสติ แอพ โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. และได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานหลัก ได้แก่ กรมการจัดหางาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ และภาคีเครือข่าย พร้อมสร้างนวัตกรรมการให้บริการเป็นนักรับฟัง ผ่านช่องทางการรับฟังในกลุ่มนักรับฟังผู้พิการที่ผ่านการอบรม "นักปฐมพยาบาลทางใจ" (Mind First Aid) เพื่อให้การดูแลช่วยเหลือด้านสุขภาพจิตเบื้องต้นเข้าถึงง่ายและครอบคลุม ในสถานประกอบการที่ได้รับการจ้างงานตามมาตรา 33 และ 35 เพื่อช่วยเหลือผู้มีความเสี่ยงจากการฆ่าตัวตายและทำร้ายตนเอง

         นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายด้านสุขภาพจิตที่กำลังเพิ่มมากขึ้น กระทรวงสาธารณสุขได้เดินหน้าส่งเสริมสุขภาพจิตของประชาชน ผ่านการพัฒนาเครือข่ายผู้ช่วยเหลือ เช่น การจัดตั้งศูนย์ให้การปรึกษาสุขภาพจิตทั่วประเทศ รวมถึงการส่งเสริมนวัตกรรมใหม่ด้านสุขภาพจิตโครงการ “นักรับฟัง พลังพิเศษ” ถือเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมทางสังคมที่จะมาเป็นพลังเสริมบุคลากรด้านสุขภาพจิตในระบบ และยังถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ที่เราเชื่อมั่นและดึงคุณค่าอันเป็นพลังพิเศษ ของผู้พิการออกมา เพื่อช่วยดูแลสังคม การสร้างพวกเขาให้เป็นนักปฐมพยาบาลทางใจ ที่มีทักษะการรับฟังอย่างลึกซึ้งนั้น จะช่วยให้การดูแลสุขภาพจิตเบื้องต้นของคนไทย เข้าถึงง่ายและครอบคลุมยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ทุกภาคีเครือข่ายมีความตั้งใจในการสร้างสังคมแห่งการมีสุขภาพจิตที่ดี และไม่ทอดทิ้งใครไว้เบื้องหลัง และจะเป็นต้นแบบที่ดีให้กับระบบสุขภาพจิตทั้งในและต่างประเทศ เพื่อการสร้างสุขภาพจิตที่ดีอย่างยั่งยืนต่อไป

         นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า โครงการ “นักรับฟัง พลังพิเศษ” หรือ Gifted Listeners ซึ่งเป็นโครงการที่มีคุณค่าและมีความหมายอย่างลึกซึ้งในการส่งเสริม โอกาสในการมีงานทำสำหรับผู้พิการในประเทศไทย เพราะการจ้างงานผู้พิการ ไม่ใช่แค่ภาระหน้าที่ตามกฎหมาย แต่คือการคืนศักดิ์ศรีและโอกาสให้กับคนไทยทุกคนได้มีที่ยืนในสังคมอย่างเท่าเทียม นี่คือหัวใจของนโยบายกระทรวงแรงงานในการผลักดันการมีงานทำอย่างทั่วถึง เข้าถึง และเป็นธรรม ที่ผ่านมา เราได้สนับสนุนการจ้างงานผู้พิการอย่างต่อเนื่อง ผ่านมาตรการต่าง ๆ เช่น การส่งเสริมการจ้างงานตามมาตรา 33 และ 35 การฝึกทักษะอาชีพให้เหมาะสมกับศักยภาพ และการสร้างความร่วมมือกับสถานประกอบการ
เพื่อสร้างงานที่ใช่กับคนที่เหมาะสม

         นายโชคชัย วิเชียรชัยยะ อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กล่าวว่า การสนับสนุนโครงการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ตามระเบียบคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ เพื่อคุ้มครองและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ การสงเคราะห์ช่วยเหลือคนพิการ  การฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ  การส่งเสริมการศึกษาสำหรับคนพิการ  การส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานขององค์กรที่เกี่ยวข้องกับคนพิการ โครงการ “นักรับฟัง พลังพิเศษ” นี้เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ได้ร่วมสนับสนุนกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาศักยภาพคนพิการ เพื่อการประกอบอาชีพ ผ่านโมเดลการฝึกอบรม ฝึกงานคนพิการ ตลอดจนพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมการจ้างงานคนพิการ รวมถึงนโยบายการให้คนพิการทั่วประเทศเข้าถึงกายอุปกรณ์เพื่อให้ได้รับโอกาส สิทธิ สวัสดิการที่เท่าเทียม ทั่วถึง

          นายแพทย์จุมภฏ พรมสีดา รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า โครงการนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่าง สถาบันวิชาการเพื่อความยั่งยืนทางสุขภาพจิต, คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, สถาบันราชสุดา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และสติ แอพ โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. และได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานหลัก ได้แก่ กรมสุขภาพจิต, กรมจัดหางาน, กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน, กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ และภาคีเครือข่าย โดยโครงการนี้วางแผนสร้างและเพิ่มจำนวน "นักปฐมพยาบาลทางใจ" (Mind First Aid) เพื่อให้การดูแลช่วยเหลือด้านสุขภาพจิตเบื้องต้นเข้าถึงง่ายและครอบคลุม ขยายผลไปยังองค์กรต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ องค์กรมหาชน และเอกชน มีเป้าหมายในการผลิตนักรับฟังผู้พิการ จำนวน 500 คน เพื่อดูแลสุขภาพจิตของคนในองค์กร จำนวนกว่า 50,000 คน และให้บริการรับฟังประชาชนอย่างน้อย 100,000 คน ผ่านการอบรมในรูปแบบออนไลน์และออนไซต์

********************

10 กันยายน 2568

• ต่อไป