Press 09116502

 

 

กรมสุขภาพจิต มอบสถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยาและศูนย์สุขภาพจิตที่ 13 กรุงเทพมหานคร จัดมหกรรมสัปดาห์สุขภาพจิตแห่งชาติ ประจำปี 2565 “วัดใจ เติมพลัง สังคมมีสุข” ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ดูแลสุขภาพจิต กลุ่มเยาวชน นักศึกษา และประชาชน ด้วยนวัตกรรมดิจิทอลทันสมัย

       นายแพทย์จุมภฎ พรมสีดา รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า เยาวชนและนักศึกษาในปัจจุบัน มีแนวโน้มที่จะเกิดปัญหาสุขภาพจิตได้สูงเนื่องจากสถานการณ์การระบาดของ โควิด-19 ที่ผ่านมาต้องหยุดการเรียน ขาดโอกาสการเรียน หรือการพบปะเพื่อนฝูง รวมทั้งปัญหาการปรับตัวทางด้านเศรษฐกิจสังคมและการเรียน ซึ่งเยาวชนและนักศึกษาบางส่วนสามารถแก้ไขปัญหาของตัวเองให้ลุล่วงได้ด้วยดี แต่มีบางส่วนที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาของตัวเองได้จึงต้องมีการช่วยเหลือจากระบบบริการอื่นๆมาร่วมด้วย กรมสุขภาพจิตมีความห่วงใยจึงได้พัฒนาแบบประเมินสภาวะสุขภาพจิตของตัวเองขึ้นผ่านทาง www.วัดใจ.comหรือ Mental Health Check-In โดยมุ่งหวังให้ผู้ที่อยากรู้สภาวะสุขภาพจิตตัวเองได้เข้ามาประเมินหากมีปัญหาด้านใดด้านหนึ่งจะนำไปสู่การช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีโดยกรมสุขภาพจิตได้พัฒนานวัตกรรมในการปรึกษา ผ่านทางระบบดิจิตอลและรูปแบบVRซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ทันสมัย เพื่อให้ผู้มีปัญหา สุขภาพจิตโดยเฉพาะเยาวชนและนักศึกษาได้เข้ามาใช้บริการ
       นายแพทย์ศรุตพันธุ์ จักรพันธุ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา กล่าวว่า ในนามผู้จัดงานภายใต้โครงการจัดงานสัปดาห์สุขภาพจิตแห่งชาติ ประจำปี 2565 “วัดใจ เติมพลัง สังคมมีสุข” ในวันนี้ สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา ศูนย์สุขภาพจิตที่ 13 กรุงเทพมหานครและมหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ได้นำนวัตกรรมบริการสุขภาพจิตต่างๆมาแนะนำให้แก่เด็กและเยาวชน ประกอบด้วย บูธ Telepsychiatry, บูธ Virtual reality (VR), บูธ Biofeedback, บูธเซียมซีความสุข และบูธประเมินสุขภาพจิตด้วย Mental Healtn Check in ซึ่งกิจกรรมหลักที่สำคัญคือการที่จะทำให้เด็กและเยาวชน รวมไปถึงวัยทำงานตอนต้นสามารถใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อรู้เท่าทันสุขภาพจิตของตนเองและดูแลสุขภาพจิตเบื้องต้นได้ อีกทั้งยังมีการสาธิตเสมือนจริงด้วยการนำระบบ AI ร่วมกับการระบบกล้องวงจรปิด โดยในระยะแรกนำมาใช้ในหอผู้ป่วยเพื่อสังเกตความเสี่ยงของผู้ป่วยที่อาจจะก่อความรุนแรงหรือป้องกันการทำร้ายตนเองต่อไป โดยในอนาคตมุ่งว่าเทคโนโลยีนี้จะกลายเป็นเครื่องมือที่สามารถดักสัญญาณเสี่ยงที่เกิดขึ้นในสังคมได้
       นายแพทย์ไพฑูรย์ สมุทรสินธุ์ ผู้อำนวยการศูนย์สุขภาพจิตที่ 13 กล่าวว่า กรมสุขภาพจิต ได้ดำเนินการกิจกรรมรณรงค์สัปดาห์สุขภาพจิตประจำปี 2565 ในหลายพื้นที่ และขอให้สังคมสนับสนุน รณรงค์ให้ประชาชนสามารถตรวจคัดกรองสุขภาพจิตทางคิวอาร์โคด MHCI ผ่านไลน์แอพลิเคชั่นพร้อมรับทราบผลการคัดกรอง คำแนะนำเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง รวมไปถึงการเข้าถึงบริการสุขภาพจิต เพราะการดูและรักษาสุขภาพใจ ประชาชนทุกกลุ่มวัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งวัยรุ่นและวัยทำงานเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติและสังคมที่มีสุข
       รศ.สายัณ พุทธลา รองคณบดี มหาวิทยาลัยสถาบันราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา กล่าวว่า ในอดีตมหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยาเชื่อว่ากิจกรรมต่างๆจะทำให้เด็กมีความสุขได้ จึงได้ส่งเสริมให้เยาวชนในสถานศึกษาทำกิจกรรมตามความถนัดอย่างหลากหลายเช่นการส่งเสริมการออกกำลังเป็นต้น แต่เมื่อสถานการณ์การระบาดไวรัสโควิด19ที่ผ่านมาทำให้กิจกรรมต่างๆถูกยกเลิกและนักศึกษาไม่ได้พบปะกัน ซึ่งความเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้เกิดความเครียดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยในปีที่ผ่านมาหลังจากเข้าสู่สถานการณ์ปกติทางสถาบันฯได้ร่วมกับกรมสุขภาพจิต ประเมินสุขภาพจิตของนักศึกษา พบ มีระดับความเครียดที่ต้องดูแลถึง 700 คน ต้องขอบคุณอีกครั้งที่กรมสุขภาพจิตนำการเครื่องมือวัดใจนำไปใช้ เพราะสิ่งจะเหล่านี้จะทำให้เราค้นพบปัญหาและทำการช่วยเหลือนักศึกษาได้อย่างทันท่วงที ปลูกฝังคนรุ่นใหม่ หมั่นวัดใจ พร้อมใช้นวัตกรรม เติมพลังสุขภาพจิต คลายเครียด คลายเศร้า เท่าทันสถานการณ์จิตใจ

****
9 พฤศจิกายน 2565